วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เตือนสติตนเอง จาก สุภาษิตไทย

ดินพอกหางหมู
การทำสิ่งใดก็ตาม ถ้ามัวแต่ผัดวันประกันพรุ่งเพราะความเกียจคร้าน ไม่ทำให้สำเร็จเสียโดยเร็ว ปล่อยให้คั่งค้างทับถมมากเข้า งานก็จะเพิ่มขึ้นทุกที ทำเท่าไหร่ไม่มีเสร็จ หรือหมายถึง หนี้สินที่ไปก่อไว้ทีละเล็กทีละน้อยจนมากมาย ก็เรียกว่าเป็นดินพอกหางหมู เช่นกัน ดินพอกหางหมู หมายความในแง่ไม่ดีเท่านั้น การเก็บหอมรอมริบเงินทองจากน้อยให้เป็นมาก ไม่เรียกว่า ดินพอกหางหมู


กบในกะลาครอบ
หมายถึง ผู้มีความรู้และประสบการณ์น้อย แต่สำคัญตนว่ามีความรู้และประสบการณ์ ...คนที่ขาดวิสัยทัศน์มองเห็นแต่สิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเท่านั้น


ดินต้องหมั่นฟื้น ปืนต้องหมั่นยิง หญิงต้องหมั่นเอาใจ



มีขึ้นก็ต้องมีลง


คางคกขึ้นวอ
คนที่มีฐานะตํ่าต้อย พอได้ดิบได้ดีก็มักแสดงกิริยาอวดดีลืมตัว.

กิ้งก่าได้ทอง
หมายถึง คนที่ไม่มีความสำคัญ ไม่เคยมีสมบัติและไม่มีความคิดด้วย เมื่อได้รับลาภยศแม้เพียงเล็กน้อย ก็คิดว่าตนมีความสำคัญเหนือผู้อื่น เกิดความเห่อเหิมลืมตัวแสดงความเย่อหยิ่งจองหองวางท่าใหญ่โต คนเช่นนี้ ย่อมเป็นที่รังเกียจของคนเป็นอันมาก


จับปลาสองมือ
หมายถึง ผู้ที่ไม่ตัดสินใจให้แน่นอนว่าควรจะทำสิ่งใด เห็นไปว่าสิ่งโน้นก็ดี สิ่งนี้ก็ดี เลยทำหมดทุกอย่าง ทำให้ต้องแบ่งความคิด เวลา และกำลังกาย สำหรับงานเหล่านั้น เป็นเหตุให้งานแต่ละอย่างไม่ได้รับผลดีเท่าที่ควรจะได้ ในที่สุดเขาจะทำงานไม่ได้ดีเลยแม้แต่สักอย่างเดียว

จับงูข้างหาง
หมายถึง การกระทำอะไรโดยไม่พิจารณาให้รอบคอบเสียก่อน ว่าควรไม่ควรอย่างไร มีคุณหรือมีโทษอย่างไร อาจได้รับโทษภัยจากการกระทำนั้นเหมือนการจับงูข้างหาง งูจะฉกกัดเอาไว้

ขี่ช้างจับตั๊กแตน
หมายถึง งานที่จะทำงานเป็นงานเล็กน้อย แต่ทำราวกับเป็นงานใหญ่โต จัดหาผู้คน เครื่องมือ เครื่องใช้มากมาย โดยไม่จำเป็นสำหรับงานนั้น ใช้เป็นคำตำหนิผู้ที่เตรียมการใหญ่โตกว่างานที่จะต้องทำ ทำให้เสียเงินทองและเวลามากไปเปล่าๆ ผลที่ได้จะไม่คุ้มกับที่เสียไป


เข็นครกขึ้นภูเขา
หมายถึง การทำงานที่ยากลำบาก จะต้องมีความบากบั่น พากเพียร อุตสาหะ มีมานะอดทน ไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย และ ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใดๆ ทั้งสิ้น งานนั้นจึงจะสำเร็จได้



ถ่มน้ำลายรดฟ้า
หมายถึง คนต่ำที่คิดล่วงเกินคนสูง หรือคนชั่วที่ คิดทำลายคนดี ตนเองนั่นแหละจะได้รับผลร้ายจาก จากกระทำของตน

สอนจระเข้ให้ว่ายน้ำ
หมายถึง สอนผู้ที่รู้ดีอยู่แล้ว ย่อมไม่เกิดประโยชน์อันใด ทั้งอาจเป็นที่ขบขันของผู้รู้เห็นอีกด้วย

น้ำลดตอผุด
หมายถึง คนที่กำลังมีอำนาจวาสนานั้นแม้จะทำความผิดความชั่วอย่างไร ก็ไม่มีผู้กล้ายกความผิดความชั่วนั้นขึ้น ความผิดความชั่วทั้งหมดจะถูกอำนาจวาสนาปกปิดไว้ เหมือนน้ำที่เต็มฝั่งปกปิดตอทั้งหลายจากสายตา เมื่อคนผู้นั้นหมดอำนาจวาสนา ความผิดความชั่วที่ทำไว้ก็จะถูกยกขึ้นทั้งหมด เหมือนเมื่อน้ำลดตอใต้น้ำทั้งเล็กใหญ่จะผุดขึ้นให้เป็นระเกะระกะ

ปิดทองหลังพระ
หมายถึง การทำงานอะไรก็ตามที่เป็นความดี โดยไม่ใคร่มีผู้รู้เห็นแม้จะเป็นการทำความดีที่มีความสำคัญ และมีประโยชน์มาก แต่เมื่อไม่มีใครรู้ตัวผู้กระทำการกระทำของผู้นั้นท่านเปรียบเหมือนกับการปิดทองหลังพระ คือแม้จะไม่มีผู้รู้เห็นตัวคนทำ แต่ความดีก็เป็นความดีที่สมบูรณ์ เหมือนความสมบูรณ์ขององค์พระที่มีทองปิดทั้งข้างหน้าข้างหลัง

มะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูก
หมายถึง คนพูดไม่อยู่กับร่องกับรอยเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ที่เรียกว่าจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน เป็นผู้ที่คนดูถูก ใครถูกกล่าวว่าเป็นมะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูก จะไม่มีใครเชื่อถือ

วัวหายล้อมคอก
หมายถึง เมื่อสิ่งหนึ่งสิ่งใดหายไป หรือเกิดเรื่องเดือดร้อนอะไรขึ้นแล้ว จึงคิดหาวิธีป้องกันในภายหลัง ย่อมไม่เกิดประโยชน์ ไม่ทำให้สิ่งที่หายไปแล้วกลับคืนมาได้ เปรียบเหมือนมีวัว แต่ไม่ทำคอกล้อมวัวไว้ ครั้นเมื่อวัวหายไปแล้ว จึงทำคอกขึ้น วัวก็หายเสียแล้ว

ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
หมายถึง การเสียทรัพย์ไปในสิ่งที่ไม่เกิดประโยชน์คุ้มกับทรัพย์ที่ต้องเสียไป เช่นการทุ่มเทข้าวของเงินทองเพื่อจัดงานใดงานหนึ่งให้ใหญ่โตเกินเหตุ เป็นการสิ้นเปลืองโดยไม่ได้รับผลคุ้มค่า และถ้าทำเกินฐานะก็จะเป็นเหตุให้มีหนี้สิน ให้เป็นที่ตำหนิติฉินอีกด้วย

มือไม่พายเอาตีนราน้ำ
หมายถึง บางคนไม่ช่วยทำกิจการอย่างหนึ่งอย่างใดให้สำเร็จลุล่วงด้วยดีโดยเร็ว แต่ยังขัดขวางถ่วงให้ล่าช้า

บ่างช่างยุ
คนที่ชอบพูดส่อเสียดยุยงให้เขาแตกกันบ่างเป็นสัตว์รูปร่างคล้ายกระรอก มีหนังพังผืดข้างลำตัวคล้ายปีก ถลาร่อนลงมาจากที่สูงได้ สำนวนนี้มาจากนิทานสุภาษิตที่เล่าว่าบ่างเที่ยวพูดยุนกกับหนูมิให้รับค้างคาวเป็นพวก

ชุบมือเปิป
ความหมาย ฉวยประโยชน์จากที่คนอื่นทำไว้แล้ว โดยไม่ได้ลงทุนลงแรง

ขว้างงูไม่พ้นคอ
หมายถึง ทำอะไรแล้วผลร้ายย้อนกลับมาสู่ตัวเอง

ฝนตกขี้หมูไหล
หมายถึง พลอยเหลวไหลไปด้วยกัน ทำให้เดือดร้อนไปทั่ว เมื่อฝนตก ขี้หมูที่อยู่ในเล้าจะถูกฝนชะให้ไหลเลอะเทอะส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว สำนวนนี้บางทีกล่าวต่อไปว่า “ ฝนตกขี้หมูไหล คนจัญไรมาพบกับ”