วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2554

Mac OS X

หลังจากดันไปซื้อเครื่อง Mac มือ 2 กะเอามาศึกษาการเขียนโปรแกรม xcode......
แล้วดันไม่มีความรู้สาย MAC มากนักเลยเจอปัญหาอย่างจังว่า XCODE4 มันลงไม่ได้กับ
MAC OS X 10.5.8 ค่าโง่ครับ

แมคโอเอสเท็น (อังกฤษ: Mac OS X) เป็นระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดในตระกูลแมคโอเอสสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์แมคอินทอช วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2001 ประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก คือ แกนกลาง ดาร์วิน (Darwin) ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมการทำงานแบบยูนิกซ์ที่เป็นโอเพนซอร์ส และส่วนติดต่อผู้ใช้แบบ อควา (Aqua) ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของแอปเปิล คอมพิวเตอร์เอง

แอปเปิลยังได้สร้างแมคโอเอสเท็นรุ่นปรับปรุง เพื่อนำไปใช้ในอุปกรณ์ของแอปเปิล 4 ตัวได้แก่ แอปเปิลทีวี ไอโฟน ไอพอดทัช และไอแพด โดยที่ไอโฟน ไอพอดทัช และไอแพดนั้นจะใช้รุ่นของแมคโอเอสที่เรียกว่า iPhone OS ซึ่งระบบปฏิบัติการที่แก้ไขนี้จะมีแต่สิ่งที่จำเป็นเท่านั้น ไดรเวอร์และส่วนประกอบอื่นที่ไม่จำเป็นจะถูกนำออกไป


ตัวอักษร "X" หมายถึงเลขสิบในระบบโรมัน และอ่านออกเสียงว่า "เท็น" (Ten, แปลว่า "สิบ" ในภาษาอังกฤษ) แสดงถึงรุ่นที่ต่อมาจากแมคโอเอสตัวก่อนหน้าคือ แมคโอเอส 9 นอกจากนี้ตัวอักษร X ยังแสดงถึงความเป็นยูนิกซ์ (UNIX) ในตัวระบบปฏิบัติการด้วย

แอปเปิลเองได้มีวิธีการเรียกชื่อแมคโอเอสเท็นถึงสามวิธี
Mac OS X v10.4 บอกเฉพาะเลขรุ่น (หมายเหตุ: ต้องมีอักษร v ด้วยเสมอ)
Mac OS X Tiger บอกเฉพาะรหัสในการพัฒนา
Mac OS X v10.4 "Tiger" บอกทั้งเลขรุ่นและรหัสในการพัฒนา

สังเกตว่ารหัสในการพัฒนานั้นจะเป็นชื่อสัตว์ในตระกูลเสือทั้งหมด

แมคโอเอสเท็นรุ่นต่างๆ

Mac OS X Public Beta (Kodiak)

เปิดตัวต่อสาธารณชนเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2000, เพื่อที่จะได้รับการตอบรับจากผู้ใช้, ซึ่งค่าใช้จ่าย $ 29.95 เป็นที่รู้จักกันทำเครื่องหมายห้องว่างสาธารณะครั้งแรกของอินเตอร์เฟซ Aqua และแอปเปิ้ลได้ทำการเปลี่ยนแปลงหลาย UI ขึ้นอยู่กับความคิดเห็นของลูกค้า Mac OS X Public Beta หมดอายุแล้วและหยุดการทำงานในฤดูใบไม้ผลิ 2001

Mac OS X 10.0 (Cheetah)

วางจำหน่าย 24 มีนาคม พ.ศ. 2544 ได้รับคำชมในเรื่องความเสถียรและความสามารถ แต่มีปัญหาในด้านความเร็วในการทำงาน ราคาจำหน่าย 129 ดอลลาร์

Mac OS X 10.1 (Puma)

วางจำหน่าย 25 กันยายน พ.ศ. 2544 ไม่ได้วางจำหน่าย แต่แจกเป็นชุดอัพเกรดฟรีสำหรับ Cheetah เพิ่มความเร็วในการทำงาน และความสามารถอื่นๆ เช่น การเล่นดีวีดี

Mac OS X 10.2 (Jaguar)

วางจำหน่าย 23 สิงหาคม พ.ศ. 2545 เพิ่มความรวดเร็วในการทำงาน หน้าตาแบบใหม่ และความสามารถ เช่น
สนับสนุนเครือข่ายที่เป็นไมโครซอฟท์วินโดวส์
iChat - อินสแตนท์ เมสเซจจริง
Apple Rendezvous - การเชื่อมต่อเครือข่ายแบบอัตโนมัติ
CUPS (The Common Unix Printing System) - ระบบการพิมพ์'กลาง'ของระบบยูนิกซ์

Mac OS X 10.3 (Panther)

วางจำหน่าย 24 ตุลาคม พ.ศ. 2546 พัฒนาความสามารถด้านอื่นเพิ่มขึ้น แต่หยุดสนับสนุนสถาปัตยกรรมแบบ G3 แล้ว ความสามารถเด่นมีดังนี้
Exposé - การแสดงหน้าต่างทำงานทั้งหมดในหน้าจอเดียว ทำให้ผู้ใช้เปลี่ยนหน้าต่างทำงานได้อย่างรวดเร็ว
Fast User Switching
FileVault
เพิ่มการสนับสนุนสถาปัตยกรรม G5

Mac OS X 10.4 (Tiger)

กำหนดวางจำหน่าย 29 เมษายน พ.ศ. 2548 ความสามารถเด่นมีดังนี้
Spotlight
Dashboard
QuickTime 7
Automator
Front row

Mac OS X 10.5 (Leopard)

แมคโอเอสเทน เลเพิร์ด (มักเรียกผิดเป็น ลีโอพาร์ด) วางจำหน่ายในวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2550 มีความสามารถเด่นที่ประกาศแล้วดังนี้
Time Machine
Spaces
Core Animation
Quicklook
Stack
Finder ใหม่ที่รวม Cover Flow view เข้าไป
รองรับ 64-bit

นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงแอปพลิเคชันที่มีอยู่เดิมอีกด้วย

Mac OS X 10.6 (Snow Leopard)

แมคโอเอส สโนว์ เลเพิร์ด ได้วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2552 โดยหยุดการสนับสนุนสถาปัตยกรรม PowerPC และมีความสามารถพิเศษเพิ่มเติมดังนี้
Dock Exposé
QuickTime X
Grand Central Dispatch
Safari 4
เขียนภาษาจีนโดยใช้ Trackpad ได้
ติดตั้งเร็วขึ้น 45%
ใช้พื้นที่น้อยลง 6GB
ปรับปรุงโค้ดกว่า 90%
เปลี่ยนเป็นระบบปฏิบัติการ 64 บิต อย่างสมบูรณ์
โปรแกรมทั้งหมดเปลี่ยนเป็น 64 บิต

Mac OS X 10.7 (Lion)

แมคโอเอส ไลออน
Safari 5
Facetime
iLife' 11
Launchpad
Mission Control
Mac App Store
Full-screen apps
Multi-Touch gestures
Auto save
Apps resume when launched
Autohiding Scrollbars
รองรับ Multitouch gestures เพิ่มมากขึ้น (สำหรับ Apple MagicMouse และ Apple MagicTrackpad)
รองรับการ Preview ในรูปแบบเต็มหน้าจอ